มาสคาร่าเป็นเครื่องสำอางที่ใช้กันทั่วไปเพื่อเพิ่มขนตา มันอาจทำให้เข้มข้นยาวขึ้นและ/หรือกำหนดขนตาโดยปกติในหนึ่งในสามรูปแบบ-ของเหลวผงหรือครีม-ผลิตภัณฑ์มาสคาร่าสมัยใหม่มีสูตรหลากหลาย แม้กระนั้นส่วนใหญ่มีส่วนประกอบพื้นฐานของเม็ดสีน้ำมันแวกซ์และสารกันบูดมาสคาร่ารูปแบบที่พบมากที่สุดคือของเหลวในหลอด แหล่งที่มาของคำว่า "มาสคาร่า" นั้นไม่ชัดเจน คำภาษาสเปนmáscaraความหมาย 'หน้ากาก' หรือ 'คราบ' และคำอิตาลี  maschera หมายถึง 'หน้ากาก' เป็นต้นกำเนิดที่เป็นไปได้คำภาษาคาตาลันที่เกี่ยวข้องอธิบายเขม่าหรือรอยเปื้อนสีดำและคำภาษาโปรตุเกสmáscaraหมายถึง 'หน้ากาก' และมาสคาร่าหมายถึงรอยเปื้อนสีเข้มหรือรอยเปื้อน) มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับแหล่งที่มาที่เป็นไปได้จากคำภาษาอาหรับmaskharahหรือ 'buffoon' ภาษาฮิบรูคำ (MaSQROTh) ในฐานะที่เกี่ยวข้องกับดวงตาของผู้หญิงที่พบในอิสยาห์ บทความภาษาละตินบางครั้งใช้คำว่ามาสคาร่าเมื่อพูดถึงแม่มด การตกแต่งความงามเป็นวัฒนธรรมสากลมาสคาร่าและสามารถบันทึกไว้ในอียิปต์โบราณบันทึกจากประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชอ้างถึงสารที่เรียกว่าkohlที่ใช้ในการทำให้ขนตาเข้มขึ้นเปลือกตาและคิ้วตาถูกใช้ในการปกปิดดวงตาเชื่อว่าจะขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและปกป้องวิญญาณทั้งชายและหญิง มักประกอบด้วยกาลีนา;Malachite;และถ่านหรือเขม่าอุจจาระจรเข้น้ำผึ้ง;และเติมน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้โคห์ลวิ่งด้วยอิทธิพลของอียิปต์การใช้โคห์ลยังคงมีอยู่ในอาณาจักรบาบิโลน,กรีกและโรมันที่ตามมาหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันโคห์ลก็เลิกใช้ในทวีปยุโรปซึ่งถือว่าเป็นเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว ในทางกลับกันมันยังคงถูกใช้อย่างกว้างขวางในตะวันออกกลางเพื่อจุดประสงค์ทางศาสนาในช่วงยุควิคตอเรียความคิดเห็นทางสังคมเปลี่ยนไปอย่างมากต่อการส่งเสริมเครื่องสำอางและผู้หญิงเป็นที่รู้จักกันว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันกับการใช้ยาบำรุงความงาม มีความพยายามอย่างมากในการสร้างภาพลวงตาของขนตาที่ยาวและยาวพยายามทำเช่นนี้ผู้หญิงวิคตอเรียสร้างมาสคาร่าแบบหนึ่งในบ้านของตัวเองพวกเขาจะให้ความร้อนผสมเถ้าหรือข่อและน้ำผลไม้ elderberry บนจานและใช้ส่วนผสมที่อุ่นกับขนตาของพวกเขา ผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนรู้จักว่าเป็นมาสคาร่าในปัจจุบันยังไม่พัฒนาจนกระทั่งศตวรรษที่19 นักเคมีชื่อEugène Rimmelพัฒนาเครื่องสำอางโดยใช้เพิ่งคิดค้นปิโตรเลียมเจลลี่ ชื่อ Rimmel กลายเป็นคำพ้องความหมายกับสารและยังแปลเป็น "มาสคาร่า"

                                               สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88

                                                  เว็บ บาคาร่าออนไลน์ ที่ดีที่สุด

ในภาษาโปรตุเกส, สเปน, กรีก, ตุรกี, โรมาเนียและภาษาเปอร์เซียวันนี้ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและในเวลาเดียวกันในปี 1915 โทมัสไลล์วิลเลียมส์ได้สร้างสารที่คล้ายกันอย่างน่าทึ่งสำหรับมาเบลน้องสาวของเขาในปี 1917 เขาเริ่มธุรกิจสั่งซื้อทางไปรษณีย์จากผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็น บริษัทเมย์เบลลีน มาสคาร่าที่พัฒนาโดยชายสองคนนี้ประกอบด้วยปิโตรเลียมเจลลี่และถ่านหินในอัตราส่วนที่กำหนด มันยุ่งอย่างปฏิเสธไม่ได้และทางเลือกที่ดีกว่าก็ได้รับการพัฒนาในไม่ช้า แปรงที่ชุบน้ำหมาด ๆ ถูกับเค้กที่มีสบู่และสีย้อมสีดำในสัดส่วนที่เท่ากันและนำไปใช้กับขนตายังยุ่งมาก ไม่มีการปรับปรุงที่สำคัญที่เกิดขึ้นจนกระทั่ง 1957 กับนวัตกรรมโดยเฮเลน่ารูบิน เหตุการณ์ที่นำไปสู่การปรับปรุงของ Rubinstein เริ่มขึ้นในปารีสในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่มาสคาร่าได้รับความนิยมและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองหลวงแฟชั่นของโลกเอลิซาเบธอาร์เดนและเฮเลนารูบินสไตน์สองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมความงามอเมริกันเฝ้าดูและรักษาพัฒนาการของมันไว้ หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งผู้บริโภคชาวอเมริกันเริ่มกระตือรือร้นที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่สัมผัสถึงโอกาสทั้งรูบินสไตน์และอาร์เดนเปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์ของตัวเองซึ่งรวมถึงมาสคาร่า ด้วยความพยายามของคู่แข่งทั้งสองและอารมณ์สาธารณะในที่สุดมาสคาร่าก็ได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมในสังคมอเมริกัน การประดิษฐ์รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหวเปิดตัวความนิยมและการใช้งานของมาสคาร่าต่อไปในอเมริกา ภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณามาตรฐานใหม่ของความงามและเสน่ห์ทางเพศ นักแสดงชื่อดังของยุคคลาสสิกซีเนม่าเช่นTheda Bara , Pola Negri , Clara Bow , Greta Garbo , มาร์ลีนดีทริช , Bette DavisและJean Harlowขึ้นอยู่กับมาสคาร่าสำหรับการปรากฏตัวที่ดูน่าดึงดูดโดยเฉลี่ยล้อเลียนในปี 1933 ผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักในบันทึกของศาลในฐานะนางบราวน์ยินยอมที่จะให้ย้อมขนตาของเธออย่างถาวรโชคไม่ดีผลิตภัณฑ์ Lash Lure ใช้para -phenylenediamineซึ่งเป็นสารเคมีที่มีพิษอย่างร้ายแรงต่อร่างกายในฐานะตัวแทนย้อมสี ในขณะนั้นเครื่องสำอางไม่ได้รับการควบคุมโดย Federal Drug Administration และไม่ทราบอันตรายของ paraphenylenediamine ภายในไม่กี่ชั่วโมงของการรักษานางบราวน์เริ่มมีอาการรุนแรงจากอาการแสบและแสบตา ในเช้าวันถัดมาดวงตาของนางบราวน์มีแผลพุพองซึ่งบวมและบวมใช้ Lash Lure ส่งผลให้ตาบอดในนางบราวน์และสิบห้าผู้หญิงคนอื่น ๆ และยังทำให้เกิดการตายของผู้อื่นผ่านการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นเพียงหลังจากเหตุการณ์ Lash Lure และคนอื่น ๆ อีกหลายคนชอบบันทึกไว้ในหนังสือของRuth deforest Lamb entitled ในเรื่องAmerican Chamber of Horrorsสภาคองเกรสให้สิทธิ์แก่องค์การอาหารและยา (FDA) ในการควบคุมเครื่องสำอางในปี 1938หลายปีต่อมาในปีพ.ศ.2500 รูบินสไตน์ได้คิดค้นสูตรที่พัฒนามาสคาร่าจากเค้กแข็งให้กลายเป็นครีมทาโลชั่น เธอบรรจุมาสคาร่าตัวใหม่ในหลอดเพื่อขายด้วยแปรง สำหรับการใช้งานนั้นให้ใช้ครีมบีบลงบนแปรงแล้วนำไปใช้กับขนตาถึงแม้จะยุ่ง แต่มันก็เป็นขั้นตอนที่นำไปสู่ผลิตภัณฑ์มาสคาร่ายุคใหม่ ในไม่ช้าแท่งทรงกระบอกที่ได้รับการจดสิทธิบัตร อุปกรณ์นี้หยิบมาสคาร่าในปริมาณเท่ากันสำหรับการใช้งานแต่ละครั้งจากนั้นแกนของร่องก็เปลี่ยนไปเป็นแปรงที่คล้ายกับแปรงที่ใช้กันทุกวันนี้การเปลี่ยนมาใช้มาสคาร่านั้นง่ายต่อการใช้งานมากขึ้นและความนิยมเพิ่มขึ้นขณะนี้มาสคาร่ากำลังได้รับความนิยมในการใช้งานได้หลากหลายโดยมีมาสคาร่าจำนวนมากรวมถึงเซรั่มบำรุงขนตาพฤกษศาสตร์และสูตรเสริมวิตามินต่างๆ เทคโนโลยีของเกาหลีอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาและมีหลายยี่ห้อที่ใช้สูตรหลอดเพื่อเคลือบขนตา

Link: คลิ๊กที่นี่